วันพุธที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2557

บทความ


บทความ... เรื่องที่ 1


เรื่อง สื่อออนไลน์, การล่มสลายของภาษาไทย


      ภาษาเป็นตัวกลางสำคัญที่ใช้ในการสื่อสารของมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นสัญชาติ เชื้อชาติใดก็ตามแต่

ล้วนแล้วแต่มีการประดิษฐ์อักษรภาษาขึ้นมาใช้ในการสื่อสารทั้งสิ้น เพราะภาษาจะช่วยให้เราเข้าใจ
ในสิ่งที่เราต้องการจะสื่อ โดยภาษาในแต่ละยุคสมัยนั้น ก็จะมัความแตกต่างและเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีหรือไม่ดีนั้น มันเกิดตามกาลเวลา เพื่อให้ท่วงทันต่อสังคมโลก
   ในปัจจุบันการใช้ภาษาไทยในการสื่อสารนั้นมีหลากหลายช่องทาง เช่น การพูด การเขียน เป็นต้น
บวกกับเทคโนโลยีที่มีความก้าวหน้าเเละทันสมัยมากขึ้น ทำให้อิสระในการใช้ภาษาไทยก็มีเพิ่มขึ้น
โดยเราจะเห็นได้จากสื่อออนไลน์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเฟชบุ๊ก ไลน์ ทวิตเตอร์ อินสตราแกรม สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่เป็นสื่อออนไลน์ที่เป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิตของมนุษย์ โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่นมีการใช้สื่อออนไลน์เหล่านี้เป็นจำนวนมาก ในการติดต่อสื่อสารชื่อกันและกัน
ทำให้ส่งผลกระทบต่อการใช้ภาษาไทยไปในทางที่เสื่อมเสีย หรือผิดหลักวิธีในการใช้ภาษา พฤติกรรม การใช้ภาษาเหล่านี้ในการพูด การเขียน เราเรียกว่า " การใช้ภาษาวิบัติ " หลายคนอาจคุ้นเคยกับคำนี้ๆ เนื่องจากการพูดหรือการเขียนภาษาไทย ไม่ถูกต้อง เช่น "อะไร" "ทามมัย" "อยุหนัย" "มั้ย" เป็นต้น ซึ่งเป็นการเขียนที่ไม่ถูกต้องตามหลักภาษา แต่คนทุกคนรู้ดีว่า มันผิดทางหลักวิธีการใช้ภาษา
แต่ก็ยังใช้ภาษาเหล่านี้ในสื่อออนไลน์กันอย่างมากมาย เนื่องจากมันเขีียนหรือพิมพ์ง่ายและผู้รับสาร
ก็สารมารถเข้าใจสารตรงกันกับผู้ส่งสาร หรืออาจเกิดจากความขี้เกียจในการเขียนของบุคคล
    แต่อย่างไรก็ดี ภาษาวิบัติเหล่านี้ก็ยังถูกใช้ในสื่อออนไลน์อย่างเป็นที่นิยม จนทำให้คนในสังคมลืมหลักการใช้ภาษาไทยไปเเล้ว คนในสังคมโดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นควรที่จะเลิกใช้ภาษาวิบัติในการสื่อสารเพื่อให้ภาษาไทยได้คงอยู่และใช้ได้อย่างถูกต้องตามหลักภาษา


................................................................................................................



บทความ... เรื่องที่ 2



เรื่อง เที่ยวดอยปุย

สถานที่ท่องเที่ยวของประเทศไทยในฤดูหนาวมีมากมายหลายแห่ง แต่ละที่ก็ต่างมีความสวยงามและแสนหนาวเพื่อให้สภาพของบรรยากาศได้เข้ากับฤดูหนาว สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบสัมผัสกับกลิ่นอายของธรรมชาติ ยอดดอย ภูเขา และอากาศหนาว ข้าพเจ้าขอแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่ออีกแห่งหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่ นั่นก็คือ ดอยปุย
เมื่อครั้งที่ข้าพเจ้าอายุ 16 ปี ช่วงเดือนมกราคมของฤดูหนาวในปีนั้น ข้าพเจ้าได้มีโอกาสเดินทางไปเที่ยวที่จังหวัดในภาคเหนือของประเทศไทยหลายจังหวัด ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ แพร่ แม่ฮ่องสอน และพะเยา ซึ่งถือว่าเป็นการเดินทางสัญจรเที่ยวเลยก็ว่าได้ เดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว การออกทริปเที่ยวในครั้งนี้จัดขึ้นโดยครอบครัวของข้าพเจ้าซึ่งเดินทางไปด้วยกัน 4 คน คือ พ่อ แม่ พี่ชาย และตัวข้าพเจ้าเอง ตลอดการเดินทางท่องเที่ยวข้าพเจ้าคิดว่าทุกๆที่ทุกๆแห่งนั้นล้วนแต่มีความสวยงามและน่าประทับใจ แต่มีอยู่ที่แห่งหนึ่งที่ข้าพเจ้าชื่นชอบและประทับใจมากที่สุดก็คือ ดอยปุย
ดอยปุย เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย จังหวัดเชียงใหม่ เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 24 ของประเทศ มีลักษณะของพื้นที่เป็นภูเขาสูงสลับซับซ้อนอยู่ในแนวเทือกเขาถนนธงไชย ยอดดอยปุย สูง 1,685 เมตร จากระดับน้ำทะเล เป็นจุดสูงสุดของอุทาแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย สภาพภูมิอากาศจะหนาวเย็นชุ่มชื้น เนื่องจากได้รับไอน้ำจากเมฆหมอกที่ปกคลุมอยู่เกือบตลอดปี อุณหภูมิเฉลี่ยต่ำสุดในพื้นที่อยู่ระหว่าง 10-12 องศาเซลเซียส บนยอดดอยปกคลุมด้วยป่าสนเขาผืนใหญ่ และเป็นแหล่งดูนกที่น่าสนใจแห่งหนึ่ง ดอยสุเทพ-ปุยเป็นถิ่นอาศัยของนกมากกว่า 300 ชนิด
ใกล้กับดอยปุยจะมีสถานที่สำหรับกางเต็นท์ ซึ่งสามารถรับนักท่องเที่ยวได้ประมาณ 250 คน อยู่ห่างจากพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ประมาณ 7 กิโลเมตร พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์เป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงในด้านความสวยงาม และมีความสำคัญยิ่ง คือ เป็นที่ประทับแปรพระราชฐานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดชฯ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ มีลักษณะเป็นแผนผังแบบเรือนไทยภาคกลางที่เรียกว่า “เรือนหมู่” มีรูปแบบสถาปัตยกรรมเป็นไทยประเพณีประยุกต์ ก่ออิฐถือปูน ยกพื้นสูงหลังคาทรงไทย ภายในประกอบไปด้วยท้องพระโรง ห้องบรรทม ห้องเสวย และห้องสรง พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์เปิดให้ประชาชนเข้าชมได้ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ

..................................................................................................................................................

บทความ... เรื่องที่ 3

เรื่อง การกำเนิดของผีเสื้อ


การเจริญเติบโตของผีเสื้อแตกต่างจากบรรดาแมลงชนิดอื่นทั้งหลาย โดยปรากฏเป็นจตุวัฏจักร ดังนี้ คือ 1. ระยะไข่ (Egg Stage) 2. ระยะบุ้ง (Caterpillar Stage หรือ Larva Stage) 3. ระยะดักแด้ (Pupa Stage หรือ Chrysalis Stage) และ 4. ระยะเจริญวัย (Adult Butterfly Stage หรือ Imago Stage)
อนึ่ง มีความเชื่ออย่างแพร่หลายว่าผีเสื้อมีวงจรชีวิตสั้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพรรณ ผีเสื้อบางพรรณอาจมีอายุเพียงหนึ่งสัปดาห์ ในขณะที่บางพรรณมีอายุยาวถึงหนึ่งปี โดยส่วนใหญ่จะมีอายุยาวในระยะบุ้ง ในขณะที่แมลงชนิดอื่นอาจหยุดการเจริญเติบโตได้ในระยะไข่หรือระยะดักแด้แล้วจึงดำเนินชีวิตต่อไปในฤดูหนาว

ระยะไข่

ในภาวะการสืบพันธุ์แบบปกติแล้วตัวเมียจะผสมกับตัวผู้ครั้งเดียวเท่านั้น แต่ตัวผู้จะผสมกับตัวเมียได้หลายตัว เมื่อผสมพันธุ์กันแล้ว ตัวเมียจะหาที่วางไข่บนใบ และลำต้นของพืชอาหาร การเลือกพืชอาหารสำหรับไข่จะเป็นความสามารถเฉพาะตัวของผีเสื้อพรรณ (specie) นั้น ๆ
ก่อนวางไข่ ตัวเมียมักตรวจสอบกลิ่นพืช โดยใช้หนวดและขนบริเวณปลายขาซึ่งมีเส้นประสาทรับกลิ่นสัมผัสกับตำแหน่งที่วางไข่ก่อน วิธีการนี้ทำให้ผีเสื้อสามารถวางไข่บนพืชอาหารของตัวเองได้อย่างถูกต้อง
ระยะวางไข่ผีเสื้อโดยทั่วไปตัวเมียจะวางไข่ประมาณหนึ่งร้อยฟอง มีอายุ 5-7 วัน และในหนึ่งร้อยฟองนี้ใช่ว่าจะเกิดเป็นผีเสื้อหนึ่งร้อยตัวในธรรมชาติเลย อัตราการรอดของผีเสื้อกลายมมาเป็นแมลงปีกสวยแค่ร้อยละ 2 เท่านั้น ที่เหลือต้องสวมบทบาทเป็นเหยื่อของนกและแมลงบางชนิดไปหรืออาจจะถูกลมฟ้าพัดพาไข่ให้ล่องลอยไปหมดโอกาสเป็นผีเสื้อในวันข้างหน้า
ดังนั้นวิธีการหลบเลี่ยงศัตรูของผีเสื้อจะใช้วิธีการพรางตัวให้กับใบไม้กิ่งไม้ บางครั้งหากไม่สังเกตจะไม่รู้ว่ากิ่งไม้แห้งมีผีเสื้อหลบภัยอยู่ ผีเสื้อส่วนใหญ่วางไข่ในลักษณะกระจาย คือ ไม่วางไข่ทั้งหมดอยู่บริเวณเดียวกัน จะวางเพียง 1-2 ฟองเท่านั้น ตำแหน่งที่วางไข่อาจแตกต่างกันไป แต่ส่วนใหญ่มักวางไข่ด้านล่างของใบพืช
ไข่ของผีเสื้อมีลักษณะของขนาด รูปร่าง สีสัน และลวดลายแตกต่างกันไป โดยขนาดของไข่นั้นจะเล็กมาก ดังนั้นจำเป็นต้องอาศัยกล้องจุลทรรศน์ในการศึกษาไข่ของผีเสื้อ เปลือกไข่ประกอบด้วยสารไคติน ที่เป็นสารชนิดเดียวกับเปลือกลำตัวของผีเสื้อและแมลงชนิดอื่นๆ และเมื่อมองผ่านกล้องจุลทรรศน์จะพบรูเปิดเล็กๆเรียกว่า ไมโครพาย (micropyle)เป็นรูที่ทำให้น้ำเชื้อตัวผู้เข้าไปผสมกับไข่ของตัวเมียได้
จากวิกิพีเดีย

การวางไข่
 



หลังจากที่ผีเสื้อตัวเมียได้รับการผสมพันธุ์แล้วสักระยะหนึ่ง มันจะบินหาต้นพืชที่เป็นอาหารของตัวหนอนเพื่อวางไข่ โดยมันจะแตะปลายท้องในท่าที่จะวางไข่สัมผัสกับใบพืช และรู้ด้วยสัญชาตญาณพิเศษทันทีว่าใช่ใบพืชที่เป็นอาหารของตัวหนอนหรือไม่ ถ้าไม่ใช่มันก็จะบินหาต่อไป แต่ถ้าใช่มันจะยื่นส่วนท้องออกเล็กน้อย แล้วค่อยๆ วางไข่ ขณะที่วางไข่ผีเสื้อจะขับสารเหนียวๆ ออกมาด้วยเพื่อให้ไข่ยึดติดกับใบไม้
ผีเสื้อส่วนใหญ่วางไข่ไว้ใต้ใบ แต่ก็มีบางชนิดที่วางไข่ไว้บนใบ สำหรับผีเสื้อที่ตัวหนอนกินใบหญ้าเป็นอาหาร มันจะใช้วิธีบินเรี่ยๆต้นหญ้า แล้วปล่อยไข่ลงมาโดยที่มันไม่ต้องเกาะบนใบหญ้าเลย ผีเสื้อประเภทนี้จะวางไข่ครั้งละมากๆ เพราะต้องเผื่อไข่บางส่วนที่ขาดหายไป ผีเสื้อกลางคืนมักจะวางไข่เป็นกลุ่มและสลัดขนจากลำตัวของมันปกคลุมไข่ไว้

หนอนผีเสื้อ



หลังจากที่ผีเสื้อตัวเมียวางไข่แล้ว 2-3 วัน ก็เริ่มปรากฏตัวหนอนเล็กๆ ขึ้นภายในไข่ ประมาณ 5-10 วันนับจากที่เริ่มวางไข่ ตัวหนอนที่อยู่ภายในก็โตเต็มที่ มันจะใช้ปากเจาะเปลือกไข่ให้แตกและดันตัวออกมา จากนั้นจึงเริ่มกินเปลือกไข่ของตัวเองเป็นอาหารมื้อแรกทันทีที่โผล่ออกมาดูโลก ไม่มีคำยืยยันแน่ชัดว่าเพราะเหตุใดหนอนผีเสื้อจึงต้องกินเปลือกไข่ตัวเอง นักวิทยาศาสตร์บางท่านสันนิฐานว่า เปลือกไข่อาจมีสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของหนอนผีเสื้อ หรืออาจเป็นการทำลายหลักฐาน และร่องรอยที่จะทำใหศัตรูรู้ถึงแหล่งอาศัยของมัน เหมือนกับพ่อแม่ของนกบางชนิดคาบเปลือกไข่ของลูกไปทิ้งที่อื่น หลังจากที่ตัวหนอนกัดกินเปลือกไข่จนหมดก็จะเริ่มกินใบพืชเป็นอาหารต่อไป

หนอนลอกคราบ

หนอนเติบโตโดยการลอกคราบประมาณ 4-5 ครั้ง  ขณะที่ผีเสื้อกลางวันลอกคราบครั้งสุดท้าย ผนังชั้นในเมื่อสัมผัสกับอากาศภายนอกจะแข็งตัว กลายเป็นเปลือกแข็งหุ้มตัวมันไว้เป็นดักแด้ ส่วนหนอนผีเสื้อกลางคืนนั้น เมื่อมันลอกคราบจนเติบโตเต็มที่แล้วจะขับใยเหนียวๆ ออกมาทางรู spinneret เพื่อทำเป็นรังไหมหุ้มตัวใช้เวลาในการสร้างรังไหมหุ้มตัวประมาณ 12-13 ชั่วโมง แล้วจึงเข้าสู่ระยะดักแด้ต่อไป

ตัวแก้วตัวบุ้ง
 
หนอนผีเสื้อมีชื่อเรียกอีกหลายอย่าง เช่น ตัวแก้วหรือหนอนแก้ว ตัวเขียวหวาน ตัวบุ้ง ตัวร่าน หนอนผีเสื้อกลางคืนบางชนิดมีขนที่มีพิษรุนแรง  เมื่อสัมผัสกับผิวหนังทำให้เกิดผื่นคัน หรือเกิดอาการแสบได้มีรูปร่างหลายแบบ ในภาพเป็นหนอนผีเสื้อกลางวันวงค์ผีเสื้อขาหน้าพู่

หนอนกินเพลี้ย

หนอนผีเสื้อบางชนิดไม่กินใบพืชเป็นอาหาร เช่น หนอนผีเสื้อดักแด้หัวลิง(Spalgis epeus) กินพวกเพลี้ยเกล็ด หนอนผีเสื้อหนอนกินเพลี้ย(Miletus chinensis)กินเพลี้ยอ่อน หนอนของผีเสื้อมอท(Liphyra brassolis)อาศัยอยู่ในรังของมดแดงกินตัวอ่อนของมดแดง หนอนผีเสื้อพวกนี้จึงช่วยกำจัดศัตรูพืชบางส่วนให้เกษตรกรได้อย่างดี
หนอนศัตรูพืช ตัวหนอนของผีเสื้อที่สร้างความเสียหายให้แก่พืชไร่มีหลายชนิดด้วยกัน เช่น หนอนผีเสื้อหนอนบังใบกินชมพู่เป็นอาหาร หนอนผีเสื้อชอนใบชอบกินใบละมุด หนอนผีเสื้อหนอนกอชอบเจาะต้นข้าวโพด หนอนผีเสื้อหนอนมะนาวชอบกัดกินใบส้มชนิดต่างๆ หนอนผีเสื้อหนอนคืบชอบกัดกินใบเงาะ เป็นต้น

วิธีต่อสู้ศัตรู

รูปร่างของหนอนผีเสื้อแตกต่างไปตามวงค์ของผีเสื้อ ระยะที่เป็นตัวหนอน  เป็นระยะที่ค่อนข้างเสี่ยงต่อการถูกนกและสัตว์อื่น ๆ จับกิน  หนอนผีเสื้อบางชนิดจึงพรางตัวให้กลมกลืนกับใบไม้ที่เกาะอยู่  บางชนิดมีต่อมกลิ่น(osmeterium) อยู่ด้านหลังของส่วนหัว สามรถปล่อยกลิ่นฉุนรุนแรง  ทำให้ศัตรูไม่กล้าเข้าใกล้  บางชนิดก็สามารถขยายส่วนหน้าของลำตัวให้พองโตได้เพื่อข่มขู่ศัตรู
ดักแด้

ระยะที่เป็นดักแด้  ผีเสื้อจะไม่กินอาหารใด ๆ เป็นเวลานานราว 7-10 วัน  เป็นช่วงที่อันตรายมากอีกระยะหนึ่ง  เพราะมันจะต้องอยู่นิ่ง ๆ ตลอดเวลา   แต่ดักแด้ก็มีวิธีการพรางตัวให้กลมกลืนกับสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัย เช่น มีสีเขียวเหมือนใบไม้ มีสีน้ำตาลคล้ายใบไม้แห้ง  บางก็มีรูปร่างเหมือนกิ่งไม้ เป็นต้น

รูปร่างของดักแด้

รูปร่างของดักแด้ผีเสื้อแต่ละชนิดจะแตกต่างกันไป   การวางหรือการเกาะของดักแด้ต่าง ๆ พอจะแบ่งออกได้เป็น 3 ลักษณะคือ
  •   แบบห้อยเอาหัวลงแขวนไว้กับกิ่งไม้ เช่นดักแด้ของผีเสื้อในวงศ์ผีเสื้อหนอนใบรัก  ดักแด้ของผีเสื้อในวงศ์ผีเสื้อขาหน้าพู่
  •  แบบเกาะอยู่กับกิ่งไม้โดยการพันใยเกี่ยวไว้รอบลำตัว เช่นดักแด้ของผีเสื้อในวงศ์ผีเสื้อหางติ่ง ดักแด้ของผีเสื้อในวงศ์ผีเสื้อหนอนกะหล่ำ
  • แบบวางราบตามพื้น หรืออยู่ในใบไม้ที่ม้วนกันเป็นหลอดเช่นดักแด้ของผีเสื้อในวงศ์ผีเสื้อบินเร็ว  ดักแด้ผีเสื้อในวงศ์ผีเสื้อสีตาล
เมื่อตัวหนอนภายในดักแด้เริ่มเปลี่ยนแปลงรูปร่างจนโตเต็มที่  มีอวัยวะเหมือนผีเสื้อตัวเต็มวัยทุกประการแล้ว มันจะใช้ขาดันเปลือกดักแด้ให้ปริออกทางด้านหลังของส่วนอก  แล้วขยับตัวออกมาจากเปลือก  จากนั้นจึงค่อย ๆ คลานออกไปเกาะพักให้ปีกที่ยังยับยู่ยี่ห้อยลงทางด้านล่าง  ในช่วงนี้ผีเสื้อจะขับถ่ายของเสีย(mecomium) ภายในร่างกายที่เกิดขึ้นระหว่างเป็นดักแด้ทิ้ง  จากนั้นผีเสื้อจะทำให้ปีกที่ยับยู่ยี่คลี่ออกและแข็งแรงขึ้น  โดยหายใจเอาอากาศเข้าไปในตัวให้มากที่สุดทั้งทางรูจมูกทางปากแรงดันของอากาศและการหดตัวของกล้ามเนื้อจะช่วยอัดให้เลือดไหลเวียนไปตามเส้นปีก  ช่วงนี้ใช้เวลาประมาณ 20 นาที  หลังจากนั้นมันยังต้องเกาะพักผึ่งปีกที่หมาดอยู่ต่อไปอีกประมาณ 1-2 ชั่วโมง ปีกจึงจะแห้งสนิท แล้วในที่สุดก็จะออกบินเป็นผีเสื้อตัวเต็มวัยสมบูรณ์พร้อมที่จะผสมพันธุ์ต่อไป



ผีเสื้อจัดเป็นสัตว์ในไฟลัมอาร์โทร์โปดา (Phylum Arthropoda) เช่นเดียวกับแมลง ทั่วๆ ไป ผีเสื้ออยู่ในอันดับเลพิดอปเทอรา (Orderlepidoptera) ของชันอินเซกตา (Class Insecta) แมลงที่อยู่ในอันดับนี้มีลักษณเด่นตรงที่ปีกปกคลุมไปด้วยเกล็ดสีเล็กๆ เรียงซ้อนกัน  คำว่าเลพิดอปเทอรา (Lepidoptera) มาจากคำในภาษากรีก 2 คำคือ เลพิส (Iepis) แปลว่าปีก   นั่นก็คือ  ปีก,เกล็ด หรือ ปีกมีเกล็ด
ทำไมเราจึงเรียกแมลงปีกบางสีสดสวยนี้ว่า ผีเสื้อ  สันนิษฐานกันว่าเนื่องจากปีกของผีเสื้อมีสีสันสดใสเหมือนกับสีของเสื้อผ้าที่คนเราสวมใส่  และการที่ผีเสื้อบินร่อนไปมา  ทำให้คนโบราณคิดกันไปว่ามีผีไปสิงอยู่ในตัวมัน  แม้นแต่ในปัจจุบัน  ชาวชนบทบางแห่งก็ยังเรียกผีเสื้อว่า แมลงผี  บางท่านก็สันนิฐานว่ามาจาก ผีเชื้อ เนื่องจากคติทางอีสานเชื่อว่าการที่มีผีเชื้อบินมาเป็นกลุ่มจำนวนมากมายจะเกิดโรคระบาด จึงทำให้เข้าใจกันว่าผีเสื้อเป็นผีเชื้อโรค  สำหรับทางภาคเหนือเรียกผีเสื้อว่า แมงกะป้อหรือแมงกะเบี้ย  ชื่อเรียกในภาษาอื่น มีเช่น   ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่าโจโจ้  ภาษาจีนแต้จิ๋วเรียกว่าหู่เตี๊ยบ ภาษาอังกฤษใช้คำว่า Butterfly  แต่ไม่ว่าแมลงปีกบางที่ประดับด้วยเกล็ดหลากสีสันนี้จะมีชื่อเรียกอย่างไรก็ตาม  ผู้คนต่างยอมรับว่าผีเสื้อคือหนึ่งในหมู่แมลงที่สร้างความสวยงามให้แก่ธรรมชาติ



( อ้างอิงจาก http://www.jabchai.com/main/view_joke.phpid=8528 )


..................................................................................................................................................

วันอาทิตย์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2557

แบบฝึกหัด ท้ายบท 1 - 8


แบบฝึกหัด
บทที่ 1 (กิจกรรม1)                                                                              กลุ่มที่เรียนที่ 2
รายวิชาการจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวัน               รหัสวิชา   0026 008
ชื่อ – สกุล นายธนกฤต รุ่งวิสัย                                                รหัสนิสิต  57011313285


จงเติมในช่องว่างว่าข้อใดเป็นข้อมูลหรือสารสนเทศ
1.ข้อมูลหมายถึง ?
    - ข้อเท็จจริงหรือเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับสิ่งต่าง ๆ เช่น คน สัตว์ สิ่งของสถานที่ โดยอยู่ในรูปแบบ
ที่เหมาะสมต่อการสื่อสาร การแปลความหมายและการประมวลผลซึ่งข้อมูลอาจจะได้มาจากการสังเกต การรวบรวม การวัด ข้อมูลเป็นได้ทั้งข้อมูลตัวเลขหรือสัญญลักษณ์ใด ๆ ที่สำคัญจะต้องมีความเป็นจริงและต่อเนื่องตัวอย่างของข้อมูล เช่น คะแนนสอบ ชื่อนักเรียน เพศ อายุ เป็นต้น   
( อ้างอิงจาก http://blog.eduzones.com/jipatar/85845 )

2. ข้อมูลปฐมภูมิ คือ ?
 

    - เป็นข้อมูลที่ได้มาจากการที่ผู้ใช้เป็นผู้เก็บข้อมูลโดยตรง ซึ่งอาจจะเก็บด้วยการสัมภาษณ์ หรือสังเกตการณ์ เป็นข้อมูลที่มีความน่าเชื่อถือมากที่สุด เนื่องจากยังไม่มีการเปลี่ยนรูป และ มีรายละเอียดตามที่ผู้ใช้ต้องการ แต่จะต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายมาก 

    # ยกตัวอย่าง : )

      -  ข้อมูลที่ได้จากการนับจำนวนรถที่เข้า - ออก มหาวิทยาลัยในช่วงเวลา 08.00 - 09.00 น . ข้อมูลจากการสัมภาษณ์นักศึกษา

(อ้างอิงจาก http://tsl.tsu.ac.th/courseware/math2/lesson1/less1_4.htm )


3. ข้อมูลทุติยภูมิ คือ ?

    - 
เป็นข้อมูลที่ได้มาจากแหล่งข้อมูลที่มีผู้เก็บรวบรวมไว้แล้ว เป็นข้อมูลในอดีต และมักจะเป็น
ข้อมูลที่ได้ผ่านการวิเคราะห์เบื้องต้นมาแล้ว ผู้ใช้นำมาใช้ได้เลย จึงประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย 
บางครั้งข้อมูลทุติยภูมิจะไม่ตรงกับความต้องการหรือมีรายละเอียดไม่เพียงพอ นอกจากนั้นผู้ใช้
จะไม่ทราบถึงข้อผิดพลาดของข้อมูล ซึ่งอาจจะทำให้ผู้ที่นำมาใช้ สรุปผลการวิจัยผิดพลาดไปด้วย

    # ยกตัวอย่าง : )

      - สถิติการเกิดอุบัติเหตุโดยรถจักรยานยนต์ของนักศึกษาในปี 2540 - 2541 เป็นข้อมูลที่บางครั้งอาจถูกแปรรูปไปแล้ว แต่เนื่องจากบางครั้งเราไม่สามารถที่จะจัดเก็บข้อมูลปฐมภูมิได้เราจึงต้องศึกษาจากข้อมูลที่มีการเก็บรวบรวมไว้แล้ว

(อ้างอิงจาก http://tsl.tsu.ac.th/courseware/math2/lesson1/less1_4.htm )

4. สารสนเทศหมายถึง ?

    - ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตของมนุษย์ หรืออาจกล่าวได้ว่า สารสนเทศ 
เกิดจากการนำข้อมูล ผ่านระบบการประมวลผล คำนวณ วิเคราะห์และแปลความหมาย
เป็นข้อความที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้  

(อ้างอิงจาก http://203.172.211.204/technology/techno1/c2-2.htm )

5. จงอธิบายประเภทของสารสนเทศ

    -  โทรศัพท์มือถือ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ดาวเทียม เครื่องคอมพิวเตอร์ วิทยุ เป็นต้น

6. ข้อเท็จจริงของสิ่งต่างๆที่อาจเป็นตัวเลขข้อความรูปภาพเสียง คือ ?

    - ข้อมูล 


7. ข้อมูลที่ผ่านการประมวลผลเป็น ?

     - การนำข้อมูล ที่เก็บรวบรวมได้มาผ่านกระบวนการต่าง ๆ เพื่อแปรสภาพข้อมูลให้อยู่ในรูปแบบที่ต้องการ เรียกว่า ข้อมูลสนเทศหรือสารสนเทศ (Information)

8. ส่วนสูงของเพื่อนที่ถามจากเพื่อนแต่ละคนเป็น ?

    - ข้อมูล


9. ผลของการลงทะเบียนเป็น ?

    - ข้อมูล

10. กราฟแสดงจำนวนนิสิตในห้องเรียนวิชาวิชาการจัดการสารสนเทศยุคใหม่ใน
ชีวิตประจำวัน Section วันอังคารเป็น ? 

    - สารสนเทศ

................................................................................................................

บทที่ 2   บทบาทสารสนเทศกับสังคม                                     กลุ่มที่เรียนที่ 2
รายวิชาการจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวัน               รหัสวิชา   0026 008
ชื่อ – สกุล นายธนกฤต รุ่งวิสัย                                                รหัสนิสิต  57011313285



คำชี้แจง จงตอบคำถามต่อไปนี้

1. ให้นิสิตหารายชื่อเว็บไซต์หรือเทคโนโลยีที่ให้บริการต่าง ๆ ตามหัวข้อเหล่านี้มาอย่างละ รายการ
1.1 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในสาขาการศึกษา
1.2 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในวิชาชีพธุรกิจ พาณิชย์ และสำนักงาน
1.3 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในวิชาชีพการสื่อสารมวลชน
1.4 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในวิชาชีพทางอุตสาหกรรม
1.5 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในวิชาชีพทางการแพทย์
1.6 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในวิชาชีพทหารตำรวจ
   3. http://www.royalthaipolice.go.th/index01.php
1.7 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในวิชาชีพวิศวกรรม
1.8 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในวิชาชีพด้านเกษตรกรรม
   3. www.acfs.go.th
1.9 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศที่เกี่ยวข้องกับคนพิการต่าง ๆ

2. มหาวิทยาลัยมหาสารคามเตรียมเทคโนโลยีสารสนเทศด้านการศึกษาให้กับท่าน มีอะไรบ้าง บอกมาอย่างน้อย อย่าง
   1. ระบบ elearning
   2. สอบแบบระบบ E-testing
   3. เข้าดูบทเรียนในระบบของวิชานั่นๆ
3. ข้อ จงวิเคราะห์ว่าท่านจะเอาเทคโนโลยีเหล่านั้น มาทำให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองอย่างไรบ้าง
ตอบ ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ประหยัดเวลาในการส่งงาน การสอบ และ การให้คะแนน 

................................................................................................................




บทที่ 3 (กิจกรรม1)                                                               กลุ่มที่เรียนที่ 2
รายวิชาการจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวัน               รหัสวิชา   0026 008
ชื่อ – สกุล นายธนกฤต รุ่งวิสัย                                                รหัสนิสิต  57011313285



คำชี้แจง จงเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุด

1. ข้อใดเป็นความหมายที่ถูกต้องที่สุดของการรู้สารสนเทศ
    ก. ความสามารถในการกลั่นกลอง และประเมินค่าสารสนเทศที่หามาได้
    ข. ความสามารถในการตัดสินใจใช้สารสนเทศรูปแบบต่างๆ
    ค. ความสามารถของบุคคลในการสืบค้นและพัฒนาสารสนเทศ
    ง. ความสามารถของบุคคลในการเข้าถึง ประเมิน และใช้งานสารสนเทศ

2. จากกระบวนการของการรู้สารสนเทศ ทั้ง 5 ประการ ประการไหนสำคัญที่สุด
    ก. ความสามารถในการตระหนักว่าเมื่อใดจึงจะต้องการสารสนเทศ
    ข. ความสามารถในการค้นหาสารสนเทศ
    ค. ความสามารถในการประมวลผลสารสนเทศ
    ง. ความสามารถในการใช้และการสื่อสารสารสนเทศอย่างมีประสิทธิภาพ
3. ข้อใดไม่ใช่ลักษณะของผู้รู้สารสนเทศ
    ก. สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้
    ข. สามารถใช้สารสนเทศในการดำเนินชีวิต
    ค. ชอบใช้คอมพิวเตอร์ในการเล่นเกม
    ง. ใช้คอมพิวเตอร์ในการแสวงหาสารสนเทศได้
4.ข้อใดไม่ใช่ความสำคัญของการรู้สารสนเทศ
    ก. โลกมีการเปลี่ยนแปลงเร็วมาก โดยเน้นวัตถุนิยมมากขึ้น
    ข. ช่วยให้บุคคลประสบความสำเร็จในการดำเนินชีวิต
    ค. สารสนเทศมีการเพิ่มปริมาณอย่างรวดเร็ว จนยากที่จะเข้าถึง
    ง. ช่วยบุคคลเป็นผู้ที่มีศักยภาพในการเรียนรู้ตลอดชีวิต
5. ข้อใดเป็นการเรียงลำดับขั้นตอนของกระบวนการเรียนรู้สารสนเทศที่ถูกต้อง
    1. ความสามารถในการประมวลสารสนเทศ
    2. ความสามารถในการประเมินสารสนเทศ
    3. ความสามารถในการใช้และการสื่อสารสนเทศอย่างมีประสิทธิภาพ
    4. ความสามารถในการค้นหาสารสนเทศ
    5. ความสามารถในการตระหนักว่าเมื่อใดจึงจะต้องการสารสนเทศ

    ก. 1-2-3-4-5 
    ข. 2-4-5-3-1  
    ค. 5-4-1-2-3 
    ง. 4-3-5-1-2

[ คำตอบบทที่ 3 : 1) ก.  2) ก. 3) ค. 4) ค. 5) ค. ]


................................................................................................................



บทที่ 4                                                                                กลุ่มที่เรียนที่ 2
รายวิชาการจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวัน               รหัสวิชา   0026 008
ชื่อ – สกุล นายธนกฤต รุ่งวิสัย                                                รหัสนิสิต  57011313285


คำชี้แจง จงตอบคำถามต่อไปนี้
1. ให้นิสิตยกตัวอย่างอุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศตามหัวข้อต่อไปนี้ อย่างน้อยหัวข้อละ 3 ชนิด แล้วแลกเปลี่ยนกันตรวจสอบกับเพื่อน
1.1) การบันทึกและจัดเก็บข้อมูล
    - เทป
    - ซีดีรอม
    -เฟลตไดร์
1.2) การแสดงผล
    - จอภาพ
    -อุปกรณ์ฉายภาพ
    - เครืองพิมพ์
1.3) การประมวลผล
    - CPU
    - Control unit
    - Arithmetic/logic unit (ALU)
1.4) การสื่อสารและเครือข่าย
    - การกระจายเสียงของสถานีโทรทัศน์หรือวิทยุ
    - วิทยุสื่อสาร
    - การสนทนาทางโทรศัพท์คู่สนทนาคุยโต้ตอบได้ในเวลาเดียวกัน

2. ให้นิสิตนำตัวเลขในช่องขวา มาเติมหน้าข้อความในช่องซ้ายที่มีความที่สัมพันธ์กัน
8 ซอฟต์แวร์ประยุกต์ 1. ส่วนใหญ่ใช้ทำหน้าที่คำนวณ ประมวลผลข้อมูล
3 Information Technology 2. e-Revenue
1 คอมพิวเตอร์ในยุคประมวลผลข้อมูล 3. เทคโนโลยีต่าง ๆ ที่นำมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินการเกี่ยวกับสารสนเทศ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ความถูกต้องแม่นยำ และความรวดเร็วต่อการนำไปใช้
4 เทคโนโลยีสารสนเทศ ประกอบด้วย 4.มีองค์ประกอบพื้นฐาน 3 ส่วน ได้แก่ Sender Medium และ Decoder
10 ช่วยเพิ่มผลผลิต เพิ่มต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพในการททำงาน 5. การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการรับ-ส่งเอกสารจากหน่วยงานหนึ่งไปยังอีกหน่วยงานหนึ่งโดยส่งผ่านเครือข่าย
7 ซอฟต์แวร์ระบบ 6. เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีการสื่อสารโทรคมนาคม และเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

9 การนำเสนอบทเรียนในรูปมัลติมีเดีย ที่ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ด้วยตัวเองได้ตามระดับความสามารถ

7. โปรแกรมที่ทำหน้าที่ใช้ควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ ภายในระบบคอมพิวเตอร์
5 EDI 8. โปรแกรมระบบห้องสมุดอัตโนมัติ จัดเป็นซอฟต์แวร์ประเภท
6 การสื่อสารโทรคมนาคม 9. CAI
2 บริการชำระภาษีออนไลน์ 10. ลักษณะสำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศ


................................................................................................................



บทที่ 5                                                                                กลุ่มที่เรียนที่ 2

รายวิชาการจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวัน               รหัสวิชา   0026 008
ชื่อ – สกุล นายธนกฤต รุ่งวิสัย                                                รหัสนิสิต  57011313285


1.จงอธิบายความหมายของการจัดการสารสนเทศ

   ตอบ  การจัดการสารสนเทศ หมายถึง กระบวนการดำเนินงาน เช่น ทำดรรชนี การจัดหมวดหมู่ การจัดแฟ้มการทำรายการเพื่อการเข้าถึงเอกสารหรือสารสนเทศที่มีการบันทึกไว้ในรูปแบบต่างๆ

2.การจัดการสารสนเทศมีความสําคัญต่อบุคคลและต่อองค์การอย่างไร
   ตอบ การจัดการสารสนเทศมีความสำคัญต่อบุคคลในด้านการดำรงชีวิตประจำวันการศึกษาและการทำงานประกอบอาชีพ ต่างๆการจัดการสารสนเทศมีความสำคัญต่อองค์การในด้านการบริหารจัดการการดำเนิน  งานและกฎหมาย
3.พัฒนาการของการจัดการสารสนเทศแบ่งออกเป็นกี่ยุค อะไรบ้าง
   ตอบ แบ่งอย่างกว้างๆได้เป็น 2 ยุค เป็นการจัดการสารสนเทศด้วยระบบมือและการจัดการสารสนเทศโดยใช้คอมพิวเตอร์
4.จงยกตัวอย่างการจัดการสารสนเทศที่นิสิตใช้ในชีวิตประจำวันมา อย่าง    น้อย 3 ตัวอย่าง
    ตอบ 1. การเก็บรวบรวมข้อมูล
            2. การตรวจสอบข้อมูล
            3. การจัดเรียงข้อมูล



................................................................................................................



บทที่  6                                                                               กลุ่มที่เรียนที่ 2
รายวิชาการจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวัน               รหัสวิชา   0026 008
ชื่อ – สกุล นายธนกฤต รุ่งวิสัย                                                รหัสนิสิต  57011313285


คำชี้แจง จงเลือกคำตอบที่ถูกที่สุดเพียงคำตอบเดียว

1. การประยุกต์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์มาใช้ให้เกิดประโยชน์ เป็นความหมายของข้อใด?
    1. เทคโนโลยีสารสนเทศ
    2. เทศโนโลยี
    3. สารสนเทศ
    4. พัฒนาการ

2. เทคโนโลยีสารสนเทศใดก่อให้เกิดผลด้านการเสริมสร้างความเท่าเทียมกันในสังคม?
   1. ควบคุมเครื่องปรับอากาศ
   2. ระบบการเรียนการสอนทางไกล
  3. การสร้างสื่อคอมพิวเตอร์ช่วยสอน
   4. การพยากรณ์อากาศ

3. การฝากถอนเงินผ่านเอทีเอ็ม (ATM) เป็นลักษณะเด่นของเทคโนโลยีสารสนเทศข้อใด?
   1. ระบบอัตโนมัติ
   2. เปลี่ยนรูปแบบการบริการเป็นแบบกระจาย
   3. เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการดำเนินการในหน่วยงาน          ต่างๆ
   4. เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพ          ในการทำงาน

4. ข้อใดคือการประยุกต์ใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศ?
   1. ระบบการโอนถ่ายเงินทางอิเล็กทรอนิกส์
   2. บัตรเอทีเอ็ม บัตรเครดิต
   3. การติดต่อข้อมูลทางเครือข่าย
   4. ถูกทุกข้อ

5. เทคโนโลยีสารสนเทศหมายถึงข้อใด?
 1. การประยุกต์เอาความรู้มาทำให้เกิดประโยชน์ต่อมวลมนุษย์
 2. ข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี
 3. การนำเทคโนโลยีด้านคอมพิวเตอร์มาสร้างข้อมูลเพิ่มให้กับสารสนเทศ
 4. การนำเอาคอมพิวเตอร์มาใช้ในการจัดเก็บข้อมูล

6. เครื่องมือที่สำคัญในการในการจัดการสารสนเทศในยุคเทคโนโลยีสารสนเทศคืออะไร?
    1. เทคโนโลยีการสื่อสาร
   2. สารสนเทศ
   3. คอมพิวเตอร์
   4. ถูกทุกข้อ

7. ข้อใดไม่ใช่บทบาทของเทคโนโลยีสารสนเทศ?
   1. เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
   2. เทคโนโลยีสารสนเทศสามารถสั่งซื้อสินค้าจากที่บ้าน หรือสอบถามผลสอบได้
   3. เทคโนโลยีสารสนเทศทำให้บุคคลทุกระดับติดต่อกันได้อย่างรวดเร็ว
   4. เทคโนโลยีสารสนเทศทำให้มีการสร้างที่พักอาศัยที่มีคุณภาพ

8. ข้อใดไม่ใช่อุปกรณ์ที่ช่วยงานด้านสารสนเทศ?
   1. เครื่องถ่ายเอกสาร
   2. เครื่องโทรสาร
   3. เครื่องมินิคอมพิวเตอร์
   4. โทรทัศน์ วิทยุ

9. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับ เทคโนโลยีสารสนเทศ?
   1. เป็นหัวใจสำคัญในการดำเนินงานธุรกิจ
   2. พัฒนาอย่างรวดเร็วทั้งทางด้านฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ ข้อมูล และการสื่อสาร
   3  ไม่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
   4. จะเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น

10. ข้อใดคือประโยชน์ที่ได้จากการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้กับการเรียน?
    1. ตรวจสอบผลการลงทะเบียน ผลการสอบได้
    2. สามารถสืบค้นข้อมูลได้จากแหล่งข้อมูลที่มีอยู่ทั่วโลกได้ 
    3. ติดต่อสื่อสารกับเพื่อน ครู อาจารย์ หรือส่งงานได้ทุกที่  
    4. ถูกทุกข้อ

................................................................................................................


บทที่  7                                                                               กลุ่มที่เรียนที่ 2
รายวิชาการจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวัน               รหัสวิชา   0026 008
ชื่อ – สกุล นายธนกฤต รุ่งวิสัย                                                รหัสนิสิต  57011313285 

1.    ข้อมูลหมายถึง
ตอบ ข้อเท็จจริงหรือเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับสิ่งต่าง ๆ เช่น คน สัตว์ สิ่งของสถานที่  โดยอยู่ในรูปแบบที่ เหมาะสมต่อการสื่อสาร การแปลความหมายและการประมวลผลซึ่งข้อมูลอาจจะได้มาจากการสังเกต การรวบรวม การวัด ข้อมูลเป็นได้ทั้งข้อมูลตัวเลขหรือสัญญลักษณ์ใด ๆ ที่สำคัญจะต้องมีความเป็นจริงและต่อเนื่องตัวอย่างของข้อมูล เช่น คะแนนสอบ ชื่อนักเรียน เพศ อายุ เป็นต้น

2.ข้อมูลปฐมภูมิคือ
ตอบ ข้อมูลที่ได้จากการรวบรวมหรือบันทึกจากแหล่งข้อมูลโดยตรง ซึ่งอาจจะได้จากการสอบถาม การสัมภาษณ์ การสำรวจ การจดบันทึก ตลอดจนการจัดหามาด้วยเครื่องจักรอัตโนมัติต่างๆ ที่ดำเนินการจัดเก็บข้อมูลได้

ยกตัวอย่างประกอบ เครื่องอ่านรหัสแท่ง เครื่องอ่านแถบแม่เหล็ก ข้อมูลปฐมภูมิจึงเป็นข้อมูลพื้นฐานที่ได้มาจากจุดกำเนิดของข้อมูลนั้นๆ

3.ข้อมูลทุติยภูมิคือ หมายถึง
ตอบ ข้อมูลที่มีผู้อื่นรวบรวมไว้ให้แล้ว บางครั้งอาจจะมีการประมวลผลเพื่อเป็นสารสนเทศ ผู้ใช้ข้อมูลไม่จำเป็นต้องไปสำรวจเอง ตัวอย่างจากข้อมูลสถิติต่างๆ ที่หน่วยงานรัฐบาลทำไว้แล้ว

ยกตัวอย่างประกอบ สถิติจำนวนประชากรแต่ละจังหวัด สถิติการส่งสินค้าออก สถิติการนำสินค้าเข้า ข้อมูลเหล่านี้มีการตีพิมพ์เผยแพร่เพื่อให้ใช้งานได้ หรือนำเอาไปประมวลผลต่อ

4.สารสนเทศหมายถึง  สารสนเทศ หมายถึง
ตอบ ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตของมนุษย์ หรืออาจกล่าวได้ว่า สารสนเทศ เกิดจากการนำข้อมูล ผ่านระบบการประมวลผล คำนวณ วิเคราะห์และแปลความหมายเป็นข้อความที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้

5.จงอธิบายประเภทของสารสนเทศ  
ตอบ วิทยุ โทรศัพท์มือถือ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ดาวเทียม เครื่องคอมพิวเตอร์ เป็นต้น

  จงเติมในช่องว่างว่าข้อใดเป็นข้อมูล หรือสารสนเทศ
6. ข้อเท็จจริงของสิ่งต่าง ๆ ที่อาจเป็นตัวเลข ข้อความ รูปภาพ เสียง คือข้อมูล
7. ข้อมูลที่ผ่านการประมวลผล เป็นการประมวลผลข้อมูล
8. ส่วนสูงของเพื่อนที่ถามจากเพื่อนแต่ละคน เป็น ข้อมูล
9. ผลของการลงทะเบียน เป็น ข้อมูล
10. กราฟแสดงจำนวนนิสิตในห้องเรียนวิชาวิชาการจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวันSection วันอังคาร เป็น  ข้อมูล




................................................................................................................



บทที่ 8                                                                                กลุ่มที่เรียนที่ 2
รายวิชาการจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวัน               รหัสวิชา   0026 008
ชื่อ – สกุล นายธนกฤต รุ่งวิสัย                                                รหัสนิสิต  57011313285


1.    ข้อมูลหมายถึง
ตอบ ข้อเท็จจริงหรือเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับสิ่งต่าง ๆ เช่น คน สัตว์ สิ่งของสถานที่  โดยอยู่ในรูปแบบที่ เหมาะสมต่อการสื่อสาร การแปลความหมายและการประมวลผลซึ่งข้อมูลอาจจะได้มาจากการสังเกต การรวบรวม การวัด ข้อมูลเป็นได้ทั้งข้อมูลตัวเลขหรือสัญญลักษณ์ใด ๆ ที่สำคัญจะต้องมีความเป็นจริงและต่อเนื่องตัวอย่างของข้อมูล เช่น คะแนนสอบ ชื่อนักเรียน เพศ อายุ เป็นต้น

2.ข้อมูลปฐมภูมิคือ
ตอบ ข้อมูลที่ได้จากการรวบรวมหรือบันทึกจากแหล่งข้อมูลโดยตรง ซึ่งอาจจะได้จากการสอบถาม การสัมภาษณ์ การสำรวจ การจดบันทึก ตลอดจนการจัดหามาด้วยเครื่องจักรอัตโนมัติต่างๆ ที่ดำเนินการจัดเก็บข้อมูลได้

ยกตัวอย่างประกอบ เครื่องอ่านรหัสแท่ง เครื่องอ่านแถบแม่เหล็ก ข้อมูลปฐมภูมิจึงเป็นข้อมูลพื้นฐานที่ได้มาจากจุดกำเนิดของข้อมูลนั้นๆ

3.ข้อมูลทุติยภูมิคือ หมายถึง
ตอบ ข้อมูลที่มีผู้อื่นรวบรวมไว้ให้แล้ว บางครั้งอาจจะมีการประมวลผลเพื่อเป็นสารสนเทศ ผู้ใช้ข้อมูลไม่จำเป็นต้องไปสำรวจเอง ตัวอย่างจากข้อมูลสถิติต่างๆ ที่หน่วยงานรัฐบาลทำไว้แล้ว

ยกตัวอย่างประกอบ สถิติจำนวนประชากรแต่ละจังหวัด สถิติการส่งสินค้าออก สถิติการนำสินค้าเข้า ข้อมูลเหล่านี้มีการตีพิมพ์เผยแพร่เพื่อให้ใช้งานได้ หรือนำเอาไปประมวลผลต่อ

4.สารสนเทศหมายถึง  สารสนเทศ หมายถึง
ตอบ ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตของมนุษย์ หรืออาจกล่าวได้ว่า สารสนเทศ เกิดจากการนำข้อมูล ผ่านระบบการประมวลผล คำนวณ วิเคราะห์และแปลความหมายเป็นข้อความที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้

5.จงอธิบายประเภทของสารสนเทศ  
ตอบ วิทยุ โทรศัพท์มือถือ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ดาวเทียม เครื่องคอมพิวเตอร์ เป็นต้น

  จงเติมในช่องว่างว่าข้อใดเป็นข้อมูล หรือสารสนเทศ
6. ข้อเท็จจริงของสิ่งต่าง ๆ ที่อาจเป็นตัวเลข ข้อความ รูปภาพ เสียง คือข้อมูล
7. ข้อมูลที่ผ่านการประมวลผล เป็นการประมวลผลข้อมูล
8. ส่วนสูงของเพื่อนที่ถามจากเพื่อนแต่ละคน เป็น ข้อมูล
9. ผลของการลงทะเบียน เป็น ข้อมูล
10. กราฟแสดงจำนวนนิสิตในห้องเรียนวิชาวิชาการจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวันSection วันอังคาร เป็น  ข้อมูล

................................................................................................................